the architects & turnkey limited
THE ARCHITECTS & TURNKEY LIMITED
ลักษณะการกระกอบธุรกิจ งานออกแบบ งานก่อสร้าง งานตกแต่งภายใน ทุนจดทะเบียน 250 ล้านบาท ก่อตั้งเมื่อ 3 มีนาคม 2532
กรรมการบริหารบริษัท :
คุณสุธีพงศ์ อินทุสุต
คุณกวี กำบุญเลิศ
คุณไพจิตร เนติศุภลักษณ์
ลักษณะการประกอบธุรกิจ : งานก่อสร้างและตกแต่งภายใน
ทุนจดทะเบียน : 275,000,000 บาท (สองร้อยเจ็ดสิบห้าล้านบาท)
สำนักงานใหญ่ : เลขที่ 47/47 หมู่ที่ 9 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี 11140
โทรศัพท์ : 0-2923-2239
Fax. : 0-2923-2110
ผู้ถือหุ้นทั้งหมดเป็นคนไทย
ก่อตั้งขึ้นเมื่อ : วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2532
เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างงานอาคาร ชั้นพิเศษ
ของกรมโยธาธิการ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536
เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างงานอาคาร ประเภท 1
ของกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542
บุคลากรในปัจจุบัน : จำนวนพนักงาน 150 คน ประกอบด้วย วิศวกร สถาปนิกและช่างก่อสร้าง รวมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญ และบุคคลากรประเภท
ต่าง ๆ ครบถ้วนเพียงพอต่อการปฏิบัติงาน
การดำเนินงาน : ระยะเวลาดำเนินงานกว่า 34 ปี โดยบริษัทได้ดำเนินงานติดต่อ
กันจนถึงปัจจุบัน
บริษัท ดิอาคิเท็คส์ แอนด์ เทิร์นคีย์ จำกัด เลขที่ 47/47 หมู่ที่ 9 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี 11140 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 250 ล้านบาท ลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัทสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้คือ 1. งานด้านการก่อสร้าง (Construction) 2. งานด้านตกแต่งภายใน (Interior Decoration)
บริษัทก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2532 โดยผู้บริหารชาวไทยที่มีประสบการณ์และความชำนาญใน การดำเนินธุรกิจด้านการก่อสร้าง บริษัทได้เริ่มดำเนินธุรกิจในการออกแบบ งานตกแต่งภายใน และงาน ก่อสร้าง พร้อมงานระบบประกอบอาคาร สำหรับธุรกิจในกลุ่มต่างๆ อาทิเช่น โรงแรม คอนโดมิเนียม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงงาน โรงพยาบาล และโครงการก่อสร้างต่าง ๆ
บริษัทได้เล็งเห็นโอกาสในการขยายการดำเนินงานและสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท โดยบริษัทได้ ขยายขอบเขตของงาน โดยเข้าดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ในหน่วยงานของรัฐ โดยได้เริ่มโครงการของรัฐ ตั้งแต่ปี 2536 โดยโครงการของรัฐโครงการแรกที่บริษัทได้เข้าดำเนินงาน คือ โครงการก่อสร้างโครงการ หอแก้วมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็น TURNKEY PROJECT โดยบริษัทรับผิดชอบตั้งแต่งาน ออกแบบวิศวกรรม การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ และงานก่อสร้าง เมื่อโครงการก่อสร้างดำเนินงานงานแล้วเสร็จ หอแก้วมุกดาหาร จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นแลนด์มาร์ค ของจังหวัดมุกดาหาร อีกทั้งในปี 2536 บริษัทได้จดทะเบียนเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารชั้นพิเศษ ของกรมโยธาธิการ และในเวลา ต่อมา บริษัทได้จดทะเบียนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานอาคารประเภท 1 ของกรุงเทพมหานคร ตลอด ระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ในหน่วยงานของรัฐจำนวนมากอย่างต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญที่ผ่านมา ดังนี้
3 มีนาคม 2532 จัดตั้งบริษัท ดิอาคิเท็คส์ แอนด์ เทิร์นคีย์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน เริ่มแรกจำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) เพื่อเริ่มดำเนิน ธุรกิจด้านงานออกแบบ งานตกแต่งภายในและงานก่อสร้าง
1 กุมภาพันธ์ 2536 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 4,000,000 บาท (สี่ล้านบาทถ้วน) เพื่อ เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเพื่อรองรับการขยายงานที่เพิ่มมากขึ้น
18 พฤษภาคม 2536 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 10,000,000 บาท (สิบล้านบาทถ้วน) เพื่อใช้ในการลงทุนซื้อเครื่องจักรในการก่อสร้าง
10 กรกฎาคม 2538 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 30,000,000 บาท (สามสิบล้านบาทถ้วน) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการขยายธุรกิจ เนื่องจาก บริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น โครงการคอนโดมิเนียม เหลียงการ์เด้น และโครงการมินิออฟฟิศ 7 ชั้น จำนวน 13 อาคาร ของ โครงการบางธานี เป็นต้น
26 กุมภาพันธ์ 2539 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 50,000,000 บาท (ห้าสิบล้านบาทถ้วน) เพื่อลงทุนในเครื่องจักรและเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เนื่องจาก บริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น โครงการศูนย์การค้าทวีวัน มาร์เก็ตเพลส โครงการคอนโดมิเนียมเย็นอากาศการ์เด้น โครงการคอนโดมิเนียม รัชโยธินเพลส และโครงการคอนโดมิเนียม เดอะเรสซิ เดนท์ นนทบุรี เป็นต้น
30 มกราคม 2540 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 60,000,000 บาท (หกสิบล้านบาทถ้วน) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายการดำเนินธุรกิจ และเริ่ม ทำงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของทางราชการ
30 พฤษภาคม 2540 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) เพื่อลงทุนในเครื่องจักรและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานก่อสร้างขนาดใหญ่ของทางราชการ ที่บริษัทได้รับงานเพิ่ม มากยิ่งขึ้น
5 กุมภาพันธ์ 2545 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 125,000,000 บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบห้า ล้านบาท) เพื่อลงทุนในเครื่องจักรและเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการ ขยายการดำเนินงานก่อสร้างโครงการต่างๆ ที่ได้รับเพิ่มมากขึ้น
22 พฤษจิกายน 2550 บริษัทได้ลงทุนซื้อที่ดินจำนวน 3 ไร่ 93.1 ตารางวา และทำการก่อสร้าง อาคารเก็บพัสดุ เพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บเครื่องจักรและวัสดุอุปกรณ์ ก่อสร้างต่าง ๆ
23 กันยายน 2559 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 250,000,000 บาท (สองร้อยห้าสิบล้านบาท) เพื่อลงทุนในเครื่องจักรและเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการขยายการดำเนินงานก่อสร้างโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
27 สิงหาคม 2563 จัดตั้งบริษัท กิจการร่วมค้า พีแอนด์เอ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน จำนวน 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) เพื่อดำเนินงาน โครงการก่อสร้างเรือนจำกลางพัทลุง กรมราชทัณฑ์
วิสัยทัศน์ (VISION)
“เพื่อเป็นบริษัทก่อสร้างเทิร์นคีย์ และลงทุนในธุรกิจใหม่เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน”
“To be Turnkey Contractor and Beyond”
พันธกิจ (MISSION)
1. นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดด้วยความซื่อสัตย์และจริงใจ เพื่อสนองตอบผลงานที่บรรลุถึงความพึงพอใจ สูงสุดมาสู่ลูกค้า และผู้สนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท
2. มุ่งมั่นในมาตรฐานแห่งผลงานคุณภาพ
เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นมืออาชีพในงานก่อสร้าง และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานแห่งผลงานก้าวไปสู่บริษัทที่เจริญเติบโตอย่างมั่นคง
3. พัฒนาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาบุคลากรของบริษัทให้มีความรู้ ความสามารถ ตลอดจนพัฒนาระบบการทำงาน และระบบควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิผล
4. สร้างธุรกิจใหม่เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
ลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัท บริษัทได้เริ่มดำเนินธุรกิจโดยทำงานภาคเอกชน เริ่มตั้งแต่ งานออกแบบ งานตกแต่งภายใน และงานก่อสร้างอาคาร พร้อมงานระบบประกอบอาคาร สำหรับธุรกิจใน กลุ่มต่างๆ อาทิเช่น โรงแรม คอนโดมิเนียม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงงาน โรงพยาบาล และโครงการก่อสร้างต่าง ๆ
ต่อมาบริษัทได้เล็งเห็นโอกาสในการขยายการดำเนินงานและสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท โดย บริษัทได้ขยายขอบเขตของงานและเข้าดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ในหน่วยงานของรัฐ โดยได้เริ่มโครงการ ก่อสร้างในหน่วยงานของรัฐตั้งแต่ปี 2536 โครงการแรกที่บริษัทได้เข้าดำเนินงาน คือ โครงการก่อสร้าง โครงการหอแก้วมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็น TURNKEY PROJECT โดยบริษัทรับผิดชอบตั้งแต่ งานออกแบบวิศวกรรม การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ และงานก่อสร้าง เมื่อโครงการก่อสร้างดำเนินงานงานแล้วเสร็จ หอแก้วมุกดาหาร จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นแลนด์มาร์ค ของจังหวัดมุกดาหาร และบริษัทได้ ขยายการดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ในหน่วยงานของรัฐอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ บริษัทดำเนินธุรกิจรับงานก่อสร้าง โดยเน้นการก่อสร้างที่มีคุณภาพสูงและใช้เทคโนโลยีที่ ทันสมัย ซึ่งจากความสามารถประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญ ตลอดจนชื่อเสียงของบริษัทในเรื่องของการ ปฏิบัติงานที่สามารถทำได้ตรงตามกำหนดเวลา และอยู่ในงบประมาณ และมีคุณภาพได้มาตรฐานที่ลูกค้า ต้องการ บริษัทจึงได้รับความไว้วางใจให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ๆ หลายโครงการอย่าง ต่อเนื่องตลอดมา โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) โครงการก่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัด บริษัทมีความชำนาญและเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัด โดยอาคารศาลากลางจังหวัด เป็นอาคารสาธารณะขนาดใหญ่พิเศษ และรูปแบบอาคารมีลักษณะพิเศษและมีอัตลักษณ์ เป็นอาคารแบบสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ และมีลักษณะรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค เป็นอาคารที่มีระบบประกอบอาคารที่สำคัญครบถ้วนทุกระบบ อาทิเช่น งานระบบไฟฟ้าและสื่อสาร งานระบบสุขาภิบาลและดับเพลิง งานระบบปรับอากาศและระบายอากาศ งานระบบเครื่องกำเนิด ไฟฟ้าสำรอง งานระบบลิฟท์โดยสาร งานระบบคอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ค งานระบบโสตทัศนูปกรณ์ พร้อมงานติดตั้งครุภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ ตลอดจนงานผังบริเวณ ระบบสาธารณูปโภคบริเวณ และงานปรับปรุงภูมิทัศน์ ทั้งนี้ บริษัทได้รับงานก่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัดในหลายจังหวัด อาทิเช่น จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครนายก จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดระนอง จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดน่าน จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดสุรินทร์ เป็นต้น
2) โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการและอาคารสำนักงาน บริษัทมีความชำนาญและเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างอาคารที่ทำการและอาคารสำนักงาน พร้อมงานระบบประกอบอาคาร โดยบริษัทมีประสบการณ์และผลงานก่อสร้างอาคารที่ทำการและอาคาร สำนักงานในหลากหลายประเภทอาคาร อาทิเช่น อาคารสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง อาคาร สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร อาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก อาคารสำนักงานเทศบาลเมืองอ้อมน้อย อาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก อาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี อาคารที่ทำการศาลจังหวัดบึงกาฬ อาคารที่ทำการกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และอาคารที่ทำการสำนักงานศาลปกครองภูมิภาค ได้แก่ ขอนแก่น เพชรบุรี พิษณุโลก นครสวรรค์ สุพรรณบุรี และอุดรธานี
3) โครงการก่อสร้างอาคารเรียนและที่พักอาศัยและอาคารประเภทอื่นๆ บริษัทมีผลงานก่อสร้างอาคารเรียนและที่พักอาศัยและอาคารประเภทอื่น พร้อมงานระบบประกอบอาคาร อาทิเช่น อาคารปฏิบัติการรวม พร้อมระบบสาธารณูปโภคนอกอาคาร มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีสุรนารี อาคารศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี อาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยบูรพา อาคารนวัตกรรมบริการด้านการจัดการภาษาและไอซีที มหาวิทยาลัยบูรพา อาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว อาคารหอพักนิสิต มหาวิทยาลัยบูรพา อาคารที่พักบุคลากรและนิสิต พร้อมระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว อาคารพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ทางการเงิน การลงทุน เศรษฐกิจ สำหรับธุรกิจของวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม (SMEs) มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นต้น
4) โครงการก่อสร้างอาคารลักษณะพิเศษ บริษัทมีประสบการณ์และมีความชำนาญในงานก่อสร้างอาคารลักษณะพิเศษที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะในการก่อสร้าง ได้แก่ 4.1 โครงการก่อสร้างหอชมเมือง บริษัทมีผลงานก่อสร้างหอชมเมือง ซึ่งเป็นอาคารลักษณะพิเศษและต้องใช้เทคนิคเฉพาะในการก่อสร้าง อาทิเช่น โครงการก่อสร้างหอแก้วมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นหอชมเมือง สูง 75 เมตร (เทียบเท่าอาคารสูง 20 ชั้น) และโครงการก่อสร้างหอโหวด จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นหอชมเมือง สูง 135 เมตร (เทียบเท่าอาคารสูง 35 ชั้น) 4.2 โครงการก่อสร้างเรือนจำ บริษัทมีผลงานก่อสร้างเรือนจำ ซึ่งเป็นอาคารลักษณะพิเศษและมีงานระบบเสริมความมั่นคง เพื่อป้องกันความปลอดภัยระดับสูงจำนวนมากและหลากหลายระบบเชื่อมโยงกัน อาทิเช่น เรือนจำกลางเพชรบุรี เรือนจำจังหวัดนครนายก และเรือนจำกลางพัทลุง
5) งานตกแต่งภายใน บริษัทมีประสบการณ์และมีทีมงานและความพร้อมในการทำงานตกแต่งภายใน โดย ผลงานตกแต่งภายในของบริษัทที่ผ่านมา อาทิเช่น งานตกแต่งอาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก งานตกแต่งอาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก งานตกแต่งอาคารที่ทำการชั่วคราวศาลปกครองนครราชสีมา งานตกแต่งอาคารที่ทำการชั่วคราวศาลปกครองขอนแก่น งานตกแต่งอาคารที่ทำการชั่วคราวศาลปกครองพิษณุโลก งานปรับปรุงและตกแต่งหอประชุมใหญ่ โรงเรียนสาธิต มศว องครักษ์ และงานตกแต่งภายใน พร้อมงานระบบประกอบอาคารที่ทำการกระทรวงยุติธรรม
1. ด้านการพัฒนาธุรกิจ (Business Development)
2. ด้านการดำเนินงาน (Operation)
3. ด้านบุคลากร (Human Resource)
จากการที่บริษัทดำเนินธุรกิจก่อสร้างมาเป็นเวลายาวนาน ทั้งด้านงานของภาครัฐ และเอกชน บริษัทได้เน้นนโยบายในการทำงานให้เต็มความสามารถ โดยใช้ประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญ จึงทำให้บริษัทมี ชื่อเสียงในเรื่องของการปฏิบัติงานที่สามารถทำงานได้ตรงตามกำหนดการ และอยู่ในงบประมาณและมี คุณภาพได้มาตรฐานตามที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงมาตรฐานของการทำงานด้วยความปลอดภัย
ปัจจุบันบริษัทมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจการก่อสร้าง โดยมีเป้าหมายลูกค้าของบริษัทจะต้อง เป็นโครงการในหน่วยงานของรัฐ และบริษัทจะดำเนินงานเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐเป็น หลัก ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินที่อาจเกินขึ้น ในกรณีถ้ารับงานของเอกชนในสภาวะเศรษฐกิจ ปัจจุบัน อีกทั้งยังจะเป็นผลดีให้กับบริษัทสามารถมีผลงานของภาครัฐมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมี ศักยภาพในการประมูลงานของภาครัฐในโครงการที่มีมูลค่าสูงขึ้นไปอีกด้วย
จากประสบการณ์ทำงานและผลงานของบริษัทให้บริษัทมีบุคลากรและทีมงานที่พร้อมในการ ดำเนินงานก่อสร้างและงานตกแต่งภายใน และมีความพร้อมด้านการเงิน ทำให้บริษัทมีความสามารถใน การทำงานโครงการขนาดใหญ่และมีมูลค่าสูงได้
ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศไทยจะประสบภาวะวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในปี 2540 และวิกฤตการณ์ในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2551 และวิกฤตการณ์สหภาพยุโรปในปี 2554 และวิกฤตการณ์ โรคระบาดโคโรน่าไวรัส (COVID-19) ในปี 2562 แต่บริษัทยังสามารถปรับตัวและได้มีการปรับปรุงการ บริหารงานในทุก ๆ ด้านของบริษัทอยู่ตลอดเวลา จึงมีผลทำให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการได้อย่างมั่นคงและมีศักยภาพและมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ โดยมีผลประกอบการกำไรสุทธิตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2538 ถึงปัจจุบัน